เอาจริง! ญี่ปุ่นปิดประเทศ ป้องกันโควิดโอไมครอน

เอาจริง! ญี่ปุ่นปิดประเทศ ป้องกันโควิดโอไมครอน

นายกญี่ปุ่นฯ ประกาศ ญี่ปุ่นปิดประเทศ ป้องกันโควิดไอไมครอน เผยอาจเปลี่ยนแปลงมาตรการได้ หากงานวิจัยพบโควิดไม่รุนแรง เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน สำนักข่าว เกียวโด ของประเทศญี่ปุ่นได้รายงานว่า นาย ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ออกมาประกาศว่าประเทศญี่ปุ่นเตรียมจะกลับมาปิดประเทศอีกครั้งในวันอังคารนี้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิดโอไมครอนที่กำลังเป็นที่จับตามองอยู่ในขณะนี้

โดยนายคิชิดะระบุว่าพวกเขาเลือกจะใช้มาตรการดังกล่าว 

เพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศต้องเผชิญกับสถานการณ์เลวร้ายที่สุด ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวอาจเป็นมาตรการเพียงชั่วคราว จนกว่าข้อมูลเกี่ยวกับโควิดโอไมครอนจะมีมากขึ้น ก่อนหน้านี้ทางการญี่ปุ่นได้สั่งห้ามไม่ให้ผู้ที่มีประวัติเดินทางจาก 9 ประเทศในทวีปแอฟริกาแล้ว

ก่อนหน้านี้มีรายงานว่ามีผู้ที่เพิ่งเดินทางจากประเทศ นามีเบีย ประเทศในแถบแอฟริกาใต้ติดโควิด อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบว่านักเดินทางคนดังกล่าว ป่วยเป็นโควิดสายพันธุ์โอไมครอน หรือไม่ เชื่อว่าใช้เวลาสี่ถึงห้าวันถึงจะทราบผล อย่างไรก็ตามจากการค้นพบโควิดสายพันธุ์ใหม่นี้ อาจส่งผลกระทบกับนโยบาย “โก ทู ทราเวล” ซึ่งเป็นแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวภายในประเทศ

โจ ไบเดน ได้ออกแถลงว่าประเทศ สหรัฐฯ ยังไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ หลัง โควิดโอไมครอน ระบาดในบางประเทศ ตราบใดที่ ปชช.ฉีดวัคซีนและสวมหน้ากากอนามัย เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า นาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาประกาศว่าในขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ หลังจากที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์โอไมครอน โดยนายไบเดนระบุว่าไม่มีความจำเป็นหากประชาชนชาวอเมริกันฉีดวัคซีนป้องกันโควิดและสวมหน้ากากอนามัย นอกจากนี้ผู้นำสหรัฐฯระบุว่า เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ที่จะพบผู้ป่วยสายพันธุ์ดังกล่าวในทวีปอเมริกาเหนือ

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ประเทศแคนาดา เพื่อนบ้านของสหรัฐฯ ประกาศว่าพบผู้ป่วยโควิดโอไมครอนแล้วสามราย โดยสองรายแรกพบว่าเป็นผู้ป่วยที่เพิ่งมีประวัติเดินทางมาจากประเทศไนจีเรีย ขณะที่ผู้ป่วยรายที่สามเพิ่งถูกพบเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะนี้ประเทศสหรัฐฯ ได้ทำสั่งแบนเที่ยวบินจากประเทศในทวีปแอฟริกาใต้แล้วอย่างน้อย 8 ประเทศ

WHO เตือน โควิดโอไมครอน เป็นภัยฉุกเฉิน กระตุ้นให้ทั่วโลกช่วยประเทศยากจนในการฉีดวัคซีนโควิด เบื้องต้นไม่พบผู้เสียชีวิตเกี่ยวกับโควิดดังกล่าว เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า ทางองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้ออกมากระตุ้นให้ทั่วโลกเฝ้าระวังโควิดโอไมครอน โควิดสายพันธุ์ใหม่ที่แพร่ระบาดในทวีปแอฟริกาและมีการค้นพบในบางพื้นที่ของทวีปยุโรป นายเทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ระบุว่า โควิด ยังไม่จบกับประชาชนโลก พร้อมเรียกร้องให้หลายประเทศร่วมกันช่วยเหลือประเทศยากจนให้ได้รับวัคซีนโควิด-19

ซึ่งทาง WHO ระบุอีกว่า การกลายพันธุ์ทั้งหมด 50 จุด รวมถึงการกลายพันธุ์มากกว่า 30 จุดในสไปค์โปรตีน อาจส่งผลถึงการแพร่ระบาดของโควิดได้ ซึ่งก่อนหน้านี้นักวิทยาศาสตร์เคยกังวลว่า โควิดเดลต้าที่กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลกซึ่งพบการกลายพันธุ์ในลักษณะนี้เพียง 2 จุด ต่างจากสายโควิดโอไมครอน มีการกลายพันธุ์มากถึง 10 จุด

และมีความแตกต่างอย่างมากหากเทียบกับไวรัสโควิด-19 ที่พบครั้งแรกในนครอู่ฮั่นของจีน ซึ่งวัคซีนส่วนใหญ่ถูกออกแบบให้รับมือกับโควิดชนิดดังกล่าว ทำให้เกิดความกังวลว่าวัคซีนโควิดอาจจะใช้ไม่ได้ผลกับโควิดชนิดนี้ โดยทาง WHO ระบุว่า โควิดโอไมครอน เป็นเรื่องฉุกเฉินและเป็นย้ำเตือนว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังไม่สิ้นสุดลง อย่างไรก็ดียังไม่มีผู้เสียชีวิตจากโควิดสายพันธุ์ดังกล่าว

พญ. ผู้ค้นพบ โควิดโอไมครอน เผย อาการ ผู้ป่วยไม่รุนแรง

แพทย์หญิงที่ค้นพบ โควิดโอไมครอน เปิดเผยว่า อาการ ของผู้ป่วยไม่รุนแรง สามารถพักรักษาตัวที่บ้านได้ อาการต่างกับโควิดเดลต้า เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน สำนักข่าว BBC ได้สัมภาษณ์ ดร.แอนเจลีเก คูตซี ประธานสมาคมการแพทย์แห่งแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นผู้ค้นพบโควิดโอไมครอน ที่เป็นจับตาอยู่ในขณะนี้เป็นคนแรก โดยแพทย์หญิงคนดังกล่าวระบุว่าผู้ป่วยโควิดโอไมครอนส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรงและสามารถรักษาตัวที่บ้านได้

นาง คูตซี กล่าวว่าเธอสังเกตว่าผู้ป่วยที่ติดโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในคลินิก 7 ราย มีอาการป่วยที่ต่างออกไปกับผู้ป่วยที่ติดโควิดสายพันธุ์เดลต้า และมีอาการที่เบา นอกจากนี้เธอยังได้เล่าว่าเธอได้พบคนไข้ชายที่แจ้งกับเธอว่า พวกเขาเหนื่อยมากและมีอาการปวดตัว และ ปวดหัว ไม่เจ็บคอ ไม่ไอ และไม่สูญเสียการรับรู้กลิ่นหรือรสชาติ

เธอบอกว่า การแสดงอาการประเภทนี้ดูจะไม่ใช่เรื่องปกตินัก จึงตัดสินใจทำการตรวจหาเชื้อ และพบว่าผู้ติดเชื้อรายนี้และสมาชิกในครอบครัวทั้งบ้านล้วนติดเชื้อ แต่พวกเขามีอาการไม่รุนแรงมาก

“แต่ในวันเดียวกันนั้น ฉันพบผู้ป่วยจำนวนมากขึ้นที่แสดงอาการแบบเดียวกัน พวกเขาทั้งหมดมีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก จนกระทั่งเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาเราถึงทราบว่านี่เป็นเชื้อสายพันธุ์ใหม่” เธอบอก รวมแล้วในวันที่ 18 วันเดียว เธอพบผู้ป่วยโควิด-19 ที่แสดงอาการต่างจากปกติทั้งหมด 7 ราย เธอจึงส่งเรื่องไปยังสถาบันโรคติดต่อแห่งแอฟริกาใต้ (NICD) ให้ทำการตรวจสอบ จนกระทั่งส่งเรื่องมายังองค์การอนามัยโลก (WHO) ในวันที่ 24 พ.ย. ในที่สุด ยืนยันว่าเป็นการพบโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่ถูกจัดระดับให้อยู่ใน “สายพันธุ์ต้องกังวล (VOC)”

โดยประธานสมาคมการแพทย์แห่งแอฟริกาใต้คาดว่า โควิดสายพันธุ์ใหม่นี้น่าจะส่งผลกระทบกับประชาชนที่มีอายุ 40 ปี หรือต่ำกว่า พร้อมระบุว่า เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 โอไมครอนยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน แต่ไม่ว่าจะฉีดหรือยังไม่ฉีด ล้วนแสดงอาการป่วยไม่รุนแรง

เครดิต : รีวิวซีรี่ย์เกาหลี | ลายสัก | รีวิวร้านอาหาร | โทรศัพท์มือถือ ราคาถูก | เรื่องย่อหนัง